ทุกครั้งที่เรากินเมนูอาหารอะไรก็ตาม โดยเฉพาะเมนูอาหารตามสั่ง เชื่อว่าทุกคนจะชอบนำพริกน้ำปลามาใส่ผสมลงในตัวอาหาร เพื่อที่เราจะได้ลิ้มลองความอร่อยได้มากยิ่งขึ้น หากใครที่ทำแบบนี้อยู่เป็นประจำแล้วล่ะก็ เรามาดูไปพร้อมกันเลยนะคะว่า คนท้องกินพริกน้ำปลาได้ไหม เรามาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ
พริกน้ำปลา แม่ท้องกินได้หรือไม่?
สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่คุณแม่ท้องหลายคนอยากรู้ว่า แท้จริงแล้วพริกน้ำปลาเป็นสิ่งที่คุณแม่ท้องสามารถกินได้หรือไม่ ต้องบอกเลยค่ะว่าพริกน้ำปลาเป็นสิ่งที่คุณแม่ท้องสามารถกินได้ แต่ในระหว่างนั้นเราก็อาจจะต้องพยายามใส่ใจเรื่องของรสชาติตามไปด้วย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรากินอาหารที่มีรสชาติเค็มจนเกินไป สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกในท้อง หรือบางครั้งก็อาจจะทำให้คุณแม่ป่วยเป็นโรคไตหรือโรคอื่น ๆ ได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำมะนาวได้ไหม กินมะนาวสุขภาพดีจริงหรือไม่!
เทคนิค! การเลือกซื้อน้ำปลายังไงให้มีคุณภาพ
การที่เราจะเลือกซื้อน้ำปลาชนิดใดก็ตามมาประกอบทำเป็นเมนูอาหาร แน่นอนว่าเราจะต้องพยายามเลือกซื้อและดูรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีตามไปด้วย เพื่อที่เราจะได้กินน้ำปลาที่ค่อนข้างปลอดภัย และมีคุณภาพมากที่สุด ส่วนเราจะต้องเลือกซื้อน้ำปลายังไงบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินมะม่วงน้ำปลาหวานได้ไหม กินแล้วจะท้องเสียหรือเปล่า?
1. น้ำปลามีลักษณะใส
ก่อนอื่นเราอาจจะต้องทำการสังเกตดูลักษณะของน้ำปลาว่ามีลักษณะอย่างไร ซึ่งน้ำปลาที่ดีนั้นจะต้องมีลักษณะใส ไม่มีความขุ่น หรือมีสิ่งอื่นมาเจือปน หากเมื่อไหร่ก็ตามที่เราพบว่าน้ำปลาที่เราซื้อไปนั้นมีลักษณะขุ่น หรือมีสิ่งอื่น ๆ เจือปนอยู่ด้านใน เราก็อาจจะต้องซื้อใหม่ และไม่ควรกินน้ำปลาที่ซื้อมานะคะ
2. มีรสชาติของเกลือและปลา
สิ่งต่อมาที่เราอาจจะต้องดู โดยเราอาจจะต้องทำการดมกลิ่นของน้ำปลาชนิดนั้น ๆ ก่อนว่า น้ำปลาที่เราซื้อมานั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ซึ่งน้ำปลาที่ดีจะต้องมีความหอมของเกลือและปลาด้วยนะคะ หากเมื่อไหร่ที่เราเห็นว่ากลิ่นของน้ำปลาเริ่มเปลี่ยนแปลงไป สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกเราได้ว่าน้ำปลามีความผิดปกติเกิดขึ้นนั่นเอง
3. ไม่เกิดการตกผลึก
น้ำปลาที่ดีและมีคุณภาพโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการตกผลึกเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะทำการเลือกซื้อน้ำปลา เราก็อาจจะต้องดูว่าน้ำปลาที่เราซื้อมานั้นมีการตกผลึกเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างที่รู้กันดีว่าหากเป็นน้ำปลาที่ได้คุณภาพ น้ำปลาจะไม่เกิดการตกผลึกแน่นอน
4. มีสีน้ำตาลอ่อน
จากนั้นเราก็อาจจะทำการสังเกตสีของน้ำปลาตามไปด้วยนะคะ โดยเราอาจจะต้องดูว่าน้ำปลาที่เราซื้อมานั้นมีสีที่เปลี่ยนไปจากเดิมหรือเปล่า ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วน้ำปลาจะมีสีน้ำตาลอ่อนนะคะ
5. ดูบรรจุภัณฑ์
สิ่งที่เราอาจจะต้องดูต่อมาเลย เราก็อาจจะต้องดูในเรื่องของการบรรจุภัณฑ์และดูในเรื่องของความสะอาดตามไปด้วย ดังนั้นหากคุณแม่อยากได้น้ำปลาที่ดีและมีคุณภาพไปประกอบทำเป็นเมนูอาหาร เราก็อาจจะเลือกซื้อน้ำปลาจากร้านที่น่าเชื่อถือ และอาจจะต้องดูวันหมดอายุตามไปด้วยนะคะ เพื่อที่เราจะได้ปลอดภัยมากที่สุด
หากเรากินโซเดียมมากเกินไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
คุณแม่คนไหนที่ชอบกินเมนูอาหารที่มีรสชาติค่อนข้างเค็มอยู่แล้ว เรามาดูไปพร้อมกันเลยนะคะว่า หากเรากินโซเดียมเข้าไปมาก ๆ สิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อสุขภาพร่างกายของเราบ้าง ใครที่อยากรู้กันแล้วเรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินเมี่ยงคำได้ไหม เมนูนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์หรือไม่!
1. เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
ไม่ว่าจะกินอาหารในมื้อไหน ๆ หากคุณแม่ชอบเติมพริกน้ำปลาหวานอยู่บ่อย ๆ หรือกินอาหารที่มีรสเค็มจนเกินไป พฤติกรรมเหล่านี้ก็อาจจะส่งผลทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ เพราะโซเดียมจะเข้ามาทำลายผนังกระเพาะอาหารของเรา ส่งผลต่อการติดเชื้อจนเกิดเป็นแผลในกระเพาะอาหาร และกลายเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารตามนั่นเองค่ะ
2. เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
สิ่งที่เป็นอันตรายสำหรับการกินโซเดียมต่อมาเลยคือ เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หากเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเราได้รับโซเดียมเข้าไปในปริมาณมาก สิ่งนี้ก็จะทำให้เราขับปัสสาวะออกมาเป็นจำนวนมาก แถมยังทำให้ร่างกายของเราขาดแคลเซียมเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรต้องระวังเรื่องนี้กันด้วยนะคะ
3. เสี่ยงความดันโลหิตสูง
สิ่งที่เป็นอันตรายต่อมาสำหรับการกินโซเดียมหรืออาหารที่มีรสเค็มมากเกินไป นั่นคือสิ่งนี้จะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ ซึ่งโรคนี้เราอาจจะต้องระวังให้ดีนะคะ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้เช่นเดียวกัน
4. เสี่ยงเป็นโรคไต
แน่นอนค่ะว่า หากใครที่ชอบกินอาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน สิ่งนี้ก็จะทำให้เราป่วยเป็นโรคไตได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าหากคุณแม่คนไหนที่ไม่อยากป่วยเป็นโรคไต และอยากมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ในคราวเดียวกันแล้วล่ะก็ เราก็อาจจะงดกินอาหารที่มีรสชาติเค็มให้มากขึ้นนะคะ
เมนูพริกน้ำปลา
วัตถุดิบและส่วนผสม
- พริกขี้หนูสวน ¼ ถ้วยตวง
- น้ำปลา ½ ถ้วยตวง
- หอมแดงซอย 2 หัว
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมจีนซอย 3 กลีบ
- มะนาวหั่นแว่น 2 แผ่น
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำ
1. มาดูกันที่อย่างแรกที่เราจะต้องทำเลย ให้เรานำพริกขี้หนู หอมแดง และกระเทียมที่เตรียมไว้มาทำการหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปใส่ไว้ในภาชนะให้เรียบร้อย
2. ขั้นตอนต่อมาให้เราใส่น้ำมะนาวที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในถ้วย จากนั้นทำการคลุกเคล้าส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน พร้อมกับแช่ทิ้งไว้เป็นเวลาประมาณ 5 นาที
3. เมื่อครบเวลาที่กำหนดเรียบร้อยแล้วนั้น ให้เราค่อย ๆ เติมส่วนผสมอื่น ๆ ที่เหลือลงไป โดยเราจะเติมน้ำตาลก่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ คนไปเรื่อยจนน้ำตาลเริ่มละลาย เมื่อเราสังเกตเห็นว่าน้ำตาลเริ่มละลายได้ที่แล้วนั้น ให้เราใส่น้ำปลาลงไปได้เลย
4. ในขั้นตอนของการใส่น้ำปลาเราไม่ควรที่จะใส่เยอะจนเกินไป แต่อาจจะใส่ในปริมาณที่พอดี จากนั้นก็ทำการตกแต่งด้วยการนำมะนาวมาหั่นเป็นแว่น ๆ เพียงเท่านี้เราก็จะได้พริกน้ำปลาหวานไว้กินคู่กับเมนูอาหารอื่น ๆ แล้วล่ะค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างหลังจากที่เราได้พาคุณแม่มาทำความรู้จักกับเมนูพริกน้ำปลากันมาแล้วนั้น ต้องบอกว่าพริกน้ำปลาเป็นสิ่งที่ใครหลายคนขาดไม่ได้ หรือชอบนำมาปรุงในเมนูอาหารก็จริง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ควร กินบ่อยหรือกินเป็นประจำ เพราะสิ่งนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตรายอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะกับแม่ท้องนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินแต่ผักผลไม้ดีจริงหรือ กินแบบนี้บ่อย ๆ จะขาดสารอาหารหรือเปล่า?
คนท้องกินไข่ดองน้ำปลาได้ไหม เมนูนี้ส่งผลอันตรายในเรื่องไหนบ้าง?
คนท้องกินแกงมัสมั่นได้ไหม เมนูนี้กินแล้วส่งผลกระทบต่อลูกในท้องหรือเปล่า?
ที่มา : 1, 2